ขอโทษประเทศไทย

จำนวนผู้เข้าชม

วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2553

อัญมณีและแหล่งในประเทศไทย
ประเทศไทยมีอัญมณีหลายชนิด ที่สำคัญได้แก่ ทับทิม แซปไฟร์ โกเมน เพทาย และ ควอตซ์
ทับทิม RUBY
ทับทิม เป็นอัญมณีที่มีค่าและราคาแพงมากที่สุดในบรรดาแร่คอรันดัมทั้งหมด สีแดงที่ เป็นที่นิยมกันมากที่สุดคือ สีแดงเข้มบริสุทธิ์ มีสีน้ำเงินปนเล็กน้อย หรือที่เรียกว่า สีเลือดนกพิราบ ซึ่งเป็นสีของทับทิมคุณภาพสูงที่มีในประเทศพม่า และทั่วโลกยอมรับกันว่าสวยที่สุด สำหรับทับทิมของไทยชาวบ้านเรียกว่า พลอยแดง ส่วนมากมีสีแดงอมม่วงถึงแดงอมดำ เป็น ทับทิมคุณภาพสูง ไม่แพ้ทับทิมพม่าเช่นกัน แหล่งทับทิมที่สำคัญที่สุดของไทย คือ บริเวณ อำเภอเขาสมิง อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด บริเวณอำเภอเมือง อำเภอมะขาม อำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรีในเขตอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษและอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ก็พบอยู่บ้าง ในปัจจุบันนี้การทำเหมืองในบริเวณดังกล่าวเหลือน้อยลง จึงมีการนำเข้ามามากขึ้นจากแหล่งในต่างประเทศทั้งใกล้และไกล เช่น กัมพูชา เวียดนาม พม่า แอฟริกาใต้ ลาว เป็นต้น
แซปไฟร์ SAPPHIRE
แซปไฟร์ เป็นแค่คอรันดัมที่มีสีต่างๆกันที่ไม่ใช่สีแดง มีได้ทั้งสีน้ำเงิน เหลือง ส้มม่วงหรือเขียวสีน้ำเงิน (Blue Sapphire) เรียกว่าไพลิน สีเหลือง (Yellow Sapphire) เรียกว่าบุษราคัม หรือพลอยน้ำบุษร์ ถ้ามีสีเขียวปนเรียกบุษร์น้ำแดง มีสีเหลืองทองเรียก บุษร์น้ำทอง สีเขียว (Green Sapphire) เรียกว่า เขียวส่อง(น้ำหน้ามีสีน้ำเงินและน้ำข้างมีสีเขียว) เขียวมรกต(เขียวสดสีขวดน้ำอัดลมชนิดหนึ่ง) เขียวบุษร์(เขียวอมเหลือง) สาแหรก (มีรูปดาว ๔-๖ แฉก) สำหรับไพลิน สีที่ถือกันว่าสวยที่สุดคือสีน้ำเงินเข้มสดมีสีม่วงปนเล็กน้อย ซึ่งเป็นสีของไพลินคุณภาพสูงจากแคชเมียร์ในอินเดีย ไพลินสีสวยรองลงมาเป็นไพลินจากพม่าและกัมพูชา ส่วนไพลินของไทยโดยเฉพาะจากแหล่งในอำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ก็มีสีสวยเทียบได้กับไพลินจากศรีลังกา แหล่งไพลิน (แซปไฟร์อื่นๆ ด้วย) ที่ใหญ่ที่สุด คุณภาพดีของประเทศไทยในปัจจุบันนี้คือ แหล่งในบริเวณ อำเภอ บ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนแหล่งในจังหวัด อื่นๆ ก็มีแต่คุณภาพไม่ดีนักเช่น บริเวณอำเภอเด่นชัย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ บริเวณอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย บริเวณอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ บริเวณอำเภอกันทรลักษณ์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ บริเวณ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี สำหรับในบริเวณแหล่งจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราดนั้น ได้ทำเหมืองมานานแล้วผลิตผลถดถอยน้อยลง จึงมีการนำเข้ามาจากประเทศออสเตรเลีย ศรีลังกา กัมพูชา พม่าแอฟริกาใต้ เช่นกัน
โกเมน GARNET
โกเมนที่พบเป็นชนิดสีแดง ทั้งชนิดไพโรป และแอลมันไดต์ ซึ่งมีระดับสีแดงต่างๆ เช่น แดงอมดำ แดงอมน้ำตาล แดงอมม่วง แดงอมส้ม เป็นต้น การ์เนตจัดเป็นกลุ่มแร่หนึ่ง ผลึกแร่อยู่ในระบบไอโซเมทริก รูปผลึกที่พบกันมากมีลักษณะกลมคล้ายลูกตระกร้อโปร่งแสงถึงทึบแสง มีส่วนประกอบทางเคมีเป็นแร่กลุ่มซิลิเกตกับธาตุเหล็กหรืออะลูมิเนียมกับธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด มี ความแข็ง ๗-๗.๕ ความถ่วงจำเพาะ ๓.๗๘-๔.๑๕ มีค่าดัชนีหักเหแสงค่าเดียว มีความวาวเหมือนแก้ว แหล่งที่พบมักเกิดร่วมกับพลอยคอ-รันดัมในแหล่งต่างๆ เช่น อำเภอเมือง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี อำเภอบ่อไร่ อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด อำเภอแกลง จังหวัดระยอง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นต้น
เพทาย ZIRCON
เป็นอัญมณีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอดีตของไทยถึงกับเรียกว่า "เพชรไทย" จัดเป็นแร่ที่มีผลึกอยู่ในระบบเททระโกนาล รูปผลึกที่พบกันมาก มีลักษณะเป็นแท่ง สี่เหลี่ยมยาว ปลายแหลม ลักษณะโปร่งแสง ถึงโปร่งใส ส่วนใหญ่มีสีออกไปทางสีน้ำตาลต่างๆมีส่วนประกอบทางเคมี เป็นเซอร์โคเนียมซิลิเกต (ZrSiO4) มีความแข็ง ๖-๗.๕ ความถ่วงจำเพาะ ๓.๙๐-๔.๗๑ มีค่าดัชนีหักเหแสง ๒ ค่า มีความวาวและมีค่าการกระจายแสงสูงใกล้เพชรมากแหล่งที่พบก็มักเกิดร่วมเป็นเพื่อนพลอยคอรันดัมตามแหล่งต่างๆ เช่น อำเภอเมือง อำเภอขลุง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานีอำเภอ กันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นต้นโดยมากแล้วเพทายมักจะนำไปเผา ให้มีความใสมากขึ้นหรือทำให้เปลี่ยนเป็นสีขาว เหลือง ฟ้าแล้วจึงนำไปเจียระไน โดยเฉพาะชนิดสีขาวใสเมื่อเจียระไนแล้วจะมีลักษณะคล้ายเพชรมาก
ควอตซ์ QUARTZ
พบทั้งในชนิดที่เป็นเนื้อผลึก (Crystalline quartz) และชนิดเนื้อเนียนละเอียด (Crypto-crystalline quartz) เป็นแร่อยู่ในระบบผลึกเฮกซะโกนาล รูปผลึกที่พบมากมีลักษณะเป็นแท่งหกเหลี่ยมยาวปลายแหลมปิดหัวท้ายผลึก มีสีต่างๆ เช่น สีชมพู (Rose quartz) สีม่วง (Amethyst) สีควันไฟ (Smoky quartz) หินผลึกขาวใส (Rock crystal) ผลึกขาวใสที่มีมลทินแร่ชนิดอื่นอยู่ภายในเนื้อ เช่น รูไทล์ ทัวร์มาลีน คลอไรต์ ไมกา ฮีมาไทต์ เป็นต้น ที่เรียกกันว่าแก้วโป่งข่าม ซึ่งเป็นที่นิยมมากในประเทศไทยเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๓ สำหรับชนิดเนื้อเนียนละเอียดก็พบมีลักษณะแตกต่างกันไป เช่น คาลซีโดนี ได้แก่ ซาร์ด (Sard) มีสีน้ำตาลอ่อน-เข้ม ส้มปนน้ำตาล คาร์นีเลียน (Carnelian) มีสีแดงอมส้ม น้ำตาลแดง หรือน้ำตาลส้ม อะเกต หรือ โมรา มีลักษณะเป็นชั้นสีสลับขนานกันทั้งที่เป็นแนวตรงหรือแนวโค้งงอ (Banded agate) ลักษณะคล้ายต้นไม้หรือสาหร่ายอยู่ในเนื้อ (Moss agate) โอนิกซ์ มีลักษณะเป็นชั้นสีขนานกันเป็นแนวตรง หินเลือดประ มีเนื้อสีเขียวทึบมีจุดสีแดงฝังประในเนื้อพื้นเขียวดังกล่าว ฟรินต์ หรือหินเหล็กไฟ มีสีด้านทึบสีเทา สีควันไฟหรือดำอมน้ำตาล เชิร์ต มีสีอ่อนกว่าฟรินต์ แจสเพอร์ มีสีแดงหรือน้ำตาลปนแดง มีลักษณะเหมือนเชิร์ต เป็นต้น ควอตซ์ มีส่วนประกอบทางเคมีเป็นซิลิคอนไดออกไซด์ (SiO2) มีความแข็ง=๗ ความถ่วงจำเพาะ ๒.๖๕-๒.๖๗ มีค่าดัชนีหักเหแสง ๒ ค่า มีความวาวเหมือนแก้วแหล่งที่พบมีดังนี้
ชนิดผลึก ควอตซ์ผลึกขาวใสและผลึกใสที่มีมลทินแร่อื่นอยู่ภายใน อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง อำเภอสา จังหวัดน่าน อำเภอเขาพระงาม จังหวัดลพบุรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฯลฯ ควอตซ์สีชมพู อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ควอตซ์สีควันไฟ อำเภอสะเมิง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ควอตซ์สีม่วงหรือแอเมทิสต์ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก
ชนิดเนื้อเนียนละเอียด อะเกต คาลซีโดนี คาร์เนเลียน ซาร์โดนิกซ์ อำเภอชัยบาดาล อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี จังหวัดลำพูน กาญจนบุรี แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ หินเลือดประ อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ แจสเพอร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ไม้กลายเป็นหิน ที่พบทั่วไปเกิดจากซิลิกาแทนที่เนื้อไม้เป็นส่วนใหญ่ อำเภอจักราช อำเภอเมือง อำเภอขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา อำเภอเมือง จังหวัดตาก อำเภอน้ำพองจังหวัดขอนแก่น อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี กิ่งอำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี

ควายไทย
บางคนเรียกควายว่า กระบือ เข้าใจว่ากระบือ เป็นคำต่างประเทศ ภาษาเขมรเรียกควายว่า กระบือหรือกระบาย ชาวฟิลิปปินส์เรียกกระบือว่า คาราบาว และชาวมาเลเซียและอินโดนิเซียเรียกว่า เคอรเบา ควายไทยมีขนาดใหญ่กว่าวัวประมาณสองเท่า ควายตัวผู้โตเต็มที่มีน้ำหนักเฉลี่ย ๖๐๐ - ๖๕๐ กิโลกรัม ควายตัวเมียโตเต็มที่มีน้ำหนักเฉลี่ย ๔๐๐-๕๐๐ กิโลกรัม ควายมีลำตัวใหญ่ กว้างและลึก มีท้องกางโต แสดงให้เห็นความจุ ท้องย้อย บั้นท้ายลาด ขายาว มีกระดูกใหญ่ หัวมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับขนาดตัว ทั้งตัวผู้และตัวเมียมีเขายาวโค้งงองุ้มเข้าหากันไปด้านหลัง เขาควายมีรูปร่างแบน ปลายเขาเรียวแหลม มองดูน่ากลัว ควาย ไทยมีสองสี คือ ควายสีเทาหรือดำ และควายเผือกซึ่งมีสีขาว ควายมีต่อมเหงื่อน้อยกว่าวัว จึงถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกายได้ไม่ดีเท่าวัว เวลาอากาศร้อน ควายชอบนอนแช่ปลักโคลน เพื่อเป็นการผ่อนคลายความร้อนของร่างกาย ถ้าควายโดนอากาศร้อนนาน ๆ จะแสดงอารมณ์หงุดหงิด เปลี่ยวและดุร้าย จนอาจทำร้ายผู้เข้าใกล้ได้หากไม่ระมัดระวัง ควายมักใช้เขาอันยาวโง้งเหวี่ยงแทงเสยไปด้านหลังด้วยความแรง แต่โดยทั่วไป ควายเป็นสัตว์เลี้ยงที่เชื่องและเชื่อฟังผู้เลี้ยง จึงฝึกใช้งานได้ง่าย ลูกควายแรกเกิดมีน้ำหนักประมาณ ๒๕-๓๕ กิโลกรัม ตัวผู้โตกว่าตัวเมีย แม่ควายให้นมพอเลี้ยงลูก นมควายมีไขมันสูง ๗-๙ เปอร์เซ็นต์ สูงกว่านมวัวซึ่งมีไขมันเพียง ๓-๔ เปอร์เซ็นต์ แม่ควายเลี้ยงลูกเก่ง ลูกควายจะดูดนมไปจนกว่าแม่จะหยุดให้นม จึงเริ่มรู้จักเล็มหญ้ากินเอง ควายสาวมีอายุผสมพันธุ์ได้ตั้งแต่ ๒-๓ ปีขึ้นไป มักพบบ่อย ๆ ว่า ควายตัวเมียให้ลูกควาย ตัวแรกเมื่ออายุ ๔-๕ ปี แม่ควายอาจให้ลูกได้ถึง ๑๐ ตัวตลอดชีวิต แต่จะให้ลูกที่แข็งแรงที่สุดเมื่อแม่ควายมีอายุระหว่าง ๘-๙ ปี ซึ่งควรให้ลูกเป็นตัวที่ ๔ หรือ ๕ แม่ควายที่ได้รับอาหารและการเลี้ยงดูดี อาจให้ลูกปีละตัว แต่โดยทั่วไปจะให้ลูกสองตัวในสามปี ควายตัวผู้เริ่มใช้ผสมพันธุ์ตั้งแต่อายุ ๓ ปีขึ้นไป แม่ควายจะตกไข่ และแสดงอาการเป็นสัดครั้งหนึ่งในรอบ ๒๒ วัน เมื่อทำการผสมพันธุ์ระยะนี้ แม่ควายจะตั้งท้อง เวลาอุ้มท้องของแม่ควายนานประมาณ ๓๑๐ วัน แต่ช่วงการตกลูกหนึ่งตัว อาจกินระยะหนึ่งปีครึ่งขึ้นไป ควายตัวผู้หนึ่งตัว ควรคุมฝูงตัวเมียเพื่อผสมพันธุ์ประมาณ ๓๐-๔๐ ตัว ต่อหนึ่งฤดูผสมพันธุ์ ควายที่ถูกฆ่าและชำแหละแต่งซากเรียบร้อยแล้ว น้ำหนักซากประมาณ ๔๕-๕๐ เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักก่อนฆ่า เนื้อควายมีมัดกล้ามเนื้อค่อนข้างใหญ่ จึงดูหยาบกว่าเนื้อวัว เนื้อควายมีสีคล้ำกว่าเนื้อวัว ซึ่งคุณภาพของเนื้อจะไม่แตกต่างกัน หากวัวและควายได้รับอาหารและการเลี้ยงดูเหมือน ๆ กัน